ข้อมูลประวัติ หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
หลวงพ่อ มีนามเดิมว่า สุข นามสกุล ดีเลิศ เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๒๐ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีฉลู บิดาชื่อนายจู มารดาชื่อนามทิม กำเนิด ณ บ้านทับใต้ ตำบลหินเหล็กไฟ แขวงเมืองเพชรบุรี ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน 6 คน
การศึกษา
เมื่ออายุ 9 ปี ได้เข้าเรียนหนังสือที่วัดโพธิ์ อำเภอบ้านลาด โดยเป็นศิกย์เจ้าอาวาส หลวงพ่อก็เล่าเรียนจนอ่านออกเขียนได้ และยังได้เรียนหนังสือขอมและบาลีอีกด้วย หลวงพ่อยังรักการต่อสู้ รักในวิชาหมัดมวย กระบี่กระบอง จนต่อมาภายหลังได้มีลูกศิกย์ลูกหาในวิชาเหล่านี้หลายคน
ต่อมา เมื่ออายุ 15 ปี ย้ายไปอยู่ที่บ้านเพลง จังหวัดราชบุรี เป็นระยะหลวงพ่อเป็นวัยรุ่น หนุ่มคนอง จึงชอบเที่ยวเตร่คบเพื่อน ไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน ชอบไปแสดงลิเก ละคร โขนหนัง จนขนาดเป็นครูสอนผู้อื่นได้ ครั้นเมื่อเบื่อการแสดง ลิเก ละคร ฯลฯ ก็เที่ยวเตร่ไปโดยไม่มีจุดหมาย จนไปคบพวกนักเลงอันธพาล จึงกลายเป็นนักเลงอันธพาล และในที่สุดเป็นอาชญากรสำคัญในย่านเพชรบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม ต้องคอยหลบนี้อาญาบ้านเมือง ซุกซ่อนอยู่ในป่าด้วยความลำบากยากแค้น ครั้นหนึ่งหลบหนี้เข้าไปในป่าจนไม่ได้กินอาหารเลย 3 วัน ตอนนี้เองได้สำนึกตัวได้ว่าตนได้ดำเนินชีวิตผิดทางเสียแล้ว ถ้าไม่กลับตัวย่อมจะได้รับความทุกข์ทรมารทั้งกายและใจ จึงตัดสินใจเล็ดลอดเข้าอุปสมบท ซึ่งขณะนั้นมีอายุได้ 32 ปี
หลวงพ่อบวช ครั้งนั้น ตรงกับวันที่ 12 กรกฎาคม 2452 ณ.วัดปราโมทย์ ตำบลโรงหวี อำเภอบางคนฑี จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีหลวงพ่อตาด วัดบางวังทองเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออุปัชฌาย์ได้จำพรรษาอยุ่ที่วัดปราโมทย์ 4 พรรษา แล้วไปอยู่วัดแก้ว 2 พรรษา จังหวัดราชบุรี และไปอยู่วัดใหม่ 1 พรรษา ต่อจากนั้นก็ออกธุดงค์ไปกับสมาเณรจันทร์ (พระครูจันทร์ ธมฺมสโร) เจ้าอาวาสวัดมฤคทายวัน) หลังจากธุดงค์ไปหลายจังหวัดแล้ว ในที่สุดก็มาถึงตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ ขณะนั้นพอดีวัดโตนดหลวงขาดสมภาร ชาวบ้านไปพบหลวงพ่อก็เกิดเลื่อมใส จึงนิมนต์ไปอยู่วัดโตนดหลวง เพื่อให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ.2548 หลวงพ่ออายุได้ 38 ปี
กรณีจกิจ หลวงพ่อได้บำเพ็ญซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและบ้านเมืองมีมากมาย เช่นบูรณะวัดโตนดหลวงเดิม ซึ่งชำรุดทรุดโทรมให้ดีขึ้น ยังมีเมตตาจิตสร้างวัดช้างแทงกระจาด วัดท่าขาม และวัดเขาลูกช้าง ในด้านการศีกษาก็ได้ช่วยสร้างอาคารเรียนให้ 3 ครั้ง ในที่สุดก็ได้สมนศักดิ์เป็น พระครูพินิจสุตคุณ
เรื่องอารณ์ขัน ของหลวงพ่อ คุณประสิทธ์ พ่วงพี ได้พบกับหลวงพ่อที่วัดเพรียง ซึ่งนิมนต์หลวงพ่อปลุกเสกวัตถุมงคลเพื่อหาเงินสร้างโรงเรียน เมื่อปี 2498 คุณประสิทธิไปหาหวงพ่อให้กระหม่อม พร้อมด้วยผู้สนใจอีกหลายคน เมื่อหลวงพ่อปลุกเสกเสร็จแล้ว ได้พูดกับผุ้ที่ไปชุมนุมอยู่รอบ ๆตัวหลวงพ่อว่า ?อย่าเชื่อฉันให้มากนักนะ ฉันมันบ้าๆ อยู่? หลวงพ่อพูดพร้อมกับหัวเราะหึ ๆ ทำให้ทุกคนทั้งขบขันและทั้งยิ่งศัรธาในความถ่อมตนของท่าน
หลวงพ่อเพรียบพร้อมทั้งคุณธรรมและความรู้หลายอย่าง เช่นมีความรู้ในทางแพทย์แผนโบราณ และยังมีความขลังทางวิชาไสยาศาสตร์มาก จนมีผู้เลื่อมในนับถืออยู่ทั่วไป มีข้าราชากรชั้นผู้ใหญ่ของประเทศนับถือเป็นจำนวนมิใช่น้อย เท่าที่สืบได้ พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ได้เคยไปลงกระหม่อม พ.อ.พระยาศรีสรุสงคราม ได้ไปให้ลงกระหม่อม และนิมนต์ไปร่วมปลุกเสกแหวนมงคล 9 และพระกริ่งยอดหมุด ณ พระอุโบสถ์วัดราชบพิธ ร่วมกับอาจารย์คนสำคัญ ๆ รวม 18 องค์ เมื่อปี 2495 และทางกองทัพบกได้นิมนต์ไปประพรมพระพุทธมนต์ และปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ให้แก่ทหารในคราวสงครามอินโดจีน ครั้งสุดท้ายได้นิมนต์ไปปลุกเสกพระเครื่องในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ
ของขลังของหลวงพ่อ ที่ขึ้นชื่อลือชา มีดังนี้
1. สักยันต์ที่เหนือราวนม ทำให้คงกระพันชาตรี อาวุธมีด ปืน ฟันแทง ยิงไม่ข้า
2. ลูกอม ปืนยิงไม่ออก คนทำร้ายไม่ถูก
3. เหรียญรูปหลวงพ่อ ใช้ทางคงกระพัน รวมทั้งครั่งด้านหลังสำหรับรักษาพวกสัตว์มีพิษ
4. แหวน ใช้ป้องกันอสรพิษและสัตว์ร้าย ต่างๆ
5. ตะกรุด ตะกรุดของหลวงพ่อมีหลายชนิดด้วยกัน คือชนิดเจ็ดดอก สามกษัตริย์ ใช้ทางคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาด ชนิดคลอดง่ายใช้ทางคลอดบุตร ชนิดสาริกา ใช้ทางเมตตามหานิยม
ของขลัง ของหลวงพ่อเท่าที่เล่ามานี้ ใช้ว่าจะมุ่งหมายชักชวนให้ผู้ใดเกิดความเชื่อถือในเครื่องรางของขลังทางไสยศาสตร์ก็หามิได้ แต่เล่าตามที่ได้รู้เห็นมา โดยยังมีประจักษ์พยานหลักฐานตัวบุคคลยืนยังอยู่ ผู้ใดจะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแต่สติปัญญาและอารมณ์ของท่าน
อันเรื่องราวของหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวงพ่อ ดังสารธยามานี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า คนทำดีไว้นั้นแม้ชีวิตจะสิ้นแล้ว แต่คุณความดีหาได้สิ้นไปด้วยไม่ และแม้บางคนจะเคยประพฤติไม่ดีมาก่อน แต่ต่อมาก็สำนึกตัวละชั่วกลับประพฤติดีได้ ก็เป็นบุคคลที่ควรแก่ยกย่องสรรเสริญ ดังเช่นหลวงพ่อทางสุข แห่งวัดโตนดหลวง พระดีอีกองค์หนึ่ง
ภาคอภิณญาของหลวงพ่อ ครั้งหนึ่ง ณ วัดท่าขาม มีคนมาขอยาต้มจากหลวงพ่อ บังเอิญยาต้มขนานนั้นต้องลงพระเจ้า 5 พะองค์ในใบมะกาด้วย แต่ใบมะกามาก ท่านจึงให้พระเณร และศิกย์ช่วยกันลง คณะศิกย์และพระเณรก็ช่วยกันลงทีละใบ ท่านรำคาญจึ่งเอ่ยว่า ?ลงอย่างนี้เมื่อไรจะหมด เรียงซ้อน ๆ มาข้าลงเอง ลูกศิกย์ก็ช่วยเรียงใบมะกาซ้อน ๆ กันประมาณ 10 -20 ใบ ท่านลงใบเดียว แต่ปรากฏว่าใบล่าง ๆ ทุกใบติด นะ โม พท ธา ยะ ทั้งหมด นับว่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
** อนุญาติให้ข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์ ทรูอมูเล็ต ดอทคอม สามารถ อ่าน คัดลอก ตัดแปลง ได้ตามที่ใจท่านต้องการ เพื่อความรู้และการศึกษา โดยไม่ต้องขออนุญาติ ข้อมูลทั้งหมดได้มาจากสื่อสาธารณะที่มีประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ไม่ได้เสียเงินสักบาท และไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ให้คนเข้าเว็บเยอะ ๆ จะได้ขายของได้เยอะ ๆ มีโฆษณามาลงเยอะ ๆ และอีกอย่างหนึ่งเพราะว่าตายไปผมก็เอาไม่ได้ ถ้าหวงนักผมขอแนะนำว่าอย่านำมาลง ให้ปิดเว็บทิ้งไปเลยจะดีกว่าอย่าทำเลย